Napoleon (2023) จักรพรรดินโปเลียน

รีวิว Napoleon (2023) จักรพรรดินโปเลียน

Napoleon ภาพยนตร์แอ็คชั่นที่อิงประวัติศาสตร์ของโปเลี่ยน ผลงานการกำกับโดย ริดลีย์ สกอต นำแสดงโดย วาคีน ฟินิกซ์, วาเนสซา เคอร์บี้ โดยเนื้อเรื่องจะกล่าวถึงเส้นทางการเรืองอำนาจของนโปเลียน โบนาปาร์ต ผู้นำทหารและรัฐบุรุษชาวฝรั่งเศส ตั้งแต่สมัยที่เขายังเป็นเด็กหนุ่ม จนถึงช่วงเวลาที่ได้กลายเป็นจักรพรรดิแห่งฝรั่งเศส ซึ่งได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์ว่าเป็นภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเรื่องหนึ่งเท่าที่เคยมีมา ในด้านความสมจริงของฉากสงคราม การแสดงที่ยอดเยี่ยมของนักแสดงนำ และบทภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของนโปเลียนได้อย่างครบสมบูรณ์อีกด้วย

ด้วยความที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้ทุนสร้างมหาศาล ในการสร้างฉากสงครามที่สมจริงและยิ่งใหญ่ ใช้เทคนิคพิเศษและวิชวลเอฟเฟกต์ขั้นสูงในการถ่ายทอดภาพการต่อสู้ที่ดุเดือดและน่าตื่นตาตื่นใจ จนได้ฉากสงครามที่โดดเด่นที่สุดอย่าง ยุทธการที่ตูเลน (Battle of Toulon) ที่เป็นยุทธการสำคัญที่นโปเลียนสามารถเอาชนะกองทัพอังกฤษและปลดปล่อยเมืองตูเลนจากเงื้อมมือของอังกฤษ ยุทธการที่ไอเซนไฮม (Battle of Austerlitz) ยุทธการครั้งยิ่งใหญ่ที่นโปเลียนสามารถเอาชนะกองทัพรัสเซียและออสเตรียได้ และยุทธการที่วอเตอร์ลู (Battle of Waterloo) ยุทธการครั้งสุดท้ายของนโปเลียน ที่นำไปสู่การพ่ายแพ้และสิ้นสุดการปกครองของจักรวรรดิฝรั่งเศส

ด้านการแสดงยังได้ วาคีน ฟินิกซ์ ที่รับบทเป็นนโปเลียนได้เหมือนกับในประวัติศาสตร์จริงๆ ทั้งในแง่ของบุคลิกภาพ การแสดงออกทางสีหน้า และท่าทางการเคลื่อนไหว ที่สามารถถ่ายทอดความทะเยอทะยาน ความมั่นใจ และเสน่ห์ของนโปเลียนได้อย่างชัดเจน แถมด้านบทก็ยังถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของนโปเลียนได้อย่างครบถ้วน เพราะนักเขียนได้ใช้เวลาหลายปีในการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับนโปเลียน เพื่อให้ได้บทที่ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตได้ตามจริงที่สุด ตั้งแต่วัยเด็ก จนถึงช่วงเวลาที่กลายเป็นจักรพรรดิแห่งฝรั่งเศส โดยไม่ลืมที่จะแง่มุมของความกล้าหาญ ความทะเยอทะยาน ความรัก และปมความขัดแย้งของตัวละครที่เรียกว่าเก็บทุกรายละเอียดจริงๆ

Napoleon ไม่ได้ขายแค่ความเป็นหนังที่อิงประวัติศาสตร์อย่างเดียวเท่านั้น แต่ด้านงานแอ็คชั่นก็ยิ่งใหญ่จัดเต็มไม่แพ้กัน บอกเลยว่าฉากการต่อสู้และการทำสงครามนั้นสมจริงมาก และใช้ทุนสร้างมหาศาล ใครที่ชื่นชอบแนวแอ็คชั่น หรือหนังสงครามบอกเลยว่าไม่ควรพลาด โดยเรื่องนี้ได้คะแนนจาก IMDb : 8.3/10 และ Rotten Tomatoes 92% ถือว่าคะแนนสูงอันดับต้นๆ ของหนังในปี 2023 เลยก็ว่าได้