Casino Royal

รีวิวหนังเรื่อง James Bond 007: Casino Royale

เรื่อง Casino Royale เป็นหนังเรื่องแรกของซีรีส์เจมส์ บอนด์ 007 ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการนำเรื่องราวจากนิยายของ เอียน ฟลีมมิง ซึ่งดัดแปลงและปรับปรุงโดยนิออล เพเวอร์แรม และนำมากำกับโดย แมร์ติน แคมป์เบลล์ ด้านนักแสดงหลักของภาพยนตร์ ได้แก่ เจมส์ บอนด์ นักแสดงบทนายเอ็ม เฮส สุดเหวี่ยงของ MI6 และวีเอส เฉิง นักแสดงหญิงที่เล่นบทเซียนสุดเซ็กซี่ สร้างความตื่นเต้นและตื่นเต้นให้กับผู้ชมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของซีรีส์เจมส์ บอนด์ 007 เลยก็ว่าได้

เนื้อเรื่องหลักของภาค Casino Royale

007 Casino Royale เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ Bond ถูกส่งตัวให้ได้รับภารกิจพิเศษในการตามหา Le Chiffre ผู้เป็นหัวหน้าที่คุมเงินของผู้ก่อการร้าย ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการคอรัปชั่นเงินระดับโลก จนทำให้เกิดการจัดแข่งการพนันในคาสิโนที่เมืองมอนเตเนโกร และทั้งสองต้องพบกันในการดวลเกมไพ่โป๊กเกอร์ เพื่อแย่งชิงความลับที่สำคัญมากที่สุด

นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้เห็น James Bond ในฐานะนักสืบใหม่ของ MI6 ซึ่งในอดีตเขาเคยเป็นนักสืบตัวฉกาจขององค์กรนี้ ในเรื่องนี้เขาได้รับรหัส 007 เมื่อไม่นานและถูกมอบหมายให้เข้าร่วมเกมการพนันในคาสิโน เกมราชาแห่งคาสิโนรอยัลเพื่อติดตามการแข่งขันที่ใช้ในการฟอกเงิน และต่อสู้กับนักเดิมพันคนสำคัญอย่าง Le Chiffre ที่แสดงโดย Jesper Christensen ตัวละครเด่นของภาคนี้ และจนเรื่องทั้งหมดกลายเป็นภารกิจที่ร้ายแรงและเสี่ยงอันตรายที่สุดตั้งแต่เจมส์บอนด์ได้รับมอบหมายมาเลยทีเดียว

เปิดโฉมตัวละครหลักได้อย่างน่าสนใจ

สำหรับภาคนี้ถือว่าเป็นการเปิดตัวแนะนำ Bond ในฐานะตัวละครเอกหลักที่น่าประทับใจทีเดียว มีการเปลี่ยนแปลงลุคและอารมณ์ของหนังให้ดูเข้ากับความเป็นจริงมากขึ้น จากการเป็นภาพยนตร์สายลับที่มีสไตล์และอุปกรณ์ไฮเทคของ 007 กลายเป็นภาพยนตร์สายลับที่มีความดุเดือด และมาดโหดขึ้น การแสดงของเจมบอนส์นั้นทำออกมาได้ดีมากๆ จนทำให้เราสัมผัสถึงความเป็นมนุษย์ที่พลาดได้ เศร้าได้และเสียใจเป็น เรียกว่าครบรสทีเดียว อีกทั้งยังได้ฉากการต่อสู้ที่เข้าถึงอารมณ์และสมบทบาท นอกจากนี้บอนด์ยังพบรักกับ Vesper Lynn ผู้เป็นนกต่อขององค์กรลับในครั้งนี้ ความสัมพันธ์ที่พบกับเธอ จนทำให้เขาอยากเลิกการทำอาชีพสายลับและกลับไปชีวิตที่เรียบง่ายแบบคนธรรมดากันเลยทีเดียว

ฉากดวลไพ่โป๊กเกอร์ ไฮไลท์เด็ดของภาคนี้

นอกจากฉากแอ็คชั่นที่น่าตื่นเต้นแล้ว ภาคนี้ยังนำเสนอฉากต่อสู้ที่ดุเดือดมากขึ้น เช่น การไล่ล่ามือระเบิดที่ต้องปืนป่ายกระโดดข้ามตึกอย่างระห่ำ และฉากการยิงปืนที่สมจริงมากกว่าฉากแอ็คชั่นในเวอร์ชันภาคก่อนๆ นอกจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ไฮเทคหรือรถสุดเท่ ก็มีมาให้แต่ไม่เหมือนจริงถึงขนาดที่เราจะเชื่อได้ว่าบอนด์นั้นเป็นมนุษย์ที่มีตัวตนจริงๆ ในเรื่อง อีกสิ่งที่ทำให้ Casino Royale ได้รับความชื่นชมคือการเล่าเรื่องที่มีการพลิกผันตลอดเวลา 

ไฮไลท์เด็ดที่ไม่พูดถึงไม่ได้จริงๆ กับฉากการดวลไพ่โป๊กเกอร์ที่บอกเลยว่าวัดกึ๋นมากๆ ที่บอนด์ต้องใช้จิตวิทยาในการอ่านเกมซึ่งกดดันมากทีเดียว แถมยังถ่ายทำภายในบ่อนคาสิโนที่ให้บรรยากาศสมจริงกับคนดู ฟีลลิ่งต่างๆ ภายในบ่อนคาสิโนในช่วงที่ต้องดวลโป๊กเกอร์เป็นอะไรที่ถือว่าหาดูได้ยากมากๆ กับหนังเรื่องอื่นที่จะทำออกมาได้ดีขนาดนี้

ยกเครดิตการแสดงยอดเยี่ยมให้ Daniel Craig

การแสดงของ Daniel Craig ในบท James Bond ในภาพยนตร์นี้เป็นที่น่าประทับใจอย่างมาก ทุ่มเทในการแสดงออกมาเป็นตัวละครที่สมจริงมากที่สุด ถึงแม้ว่าจะดูเป็นคนที่ก้าวร้าว แต่ก็ยังสามารถรับรู้เสน่ห์ของเขาที่ก็มีความเป็นผู้ชายแมนๆ นั่นเอง ทำให้ผู้ชมหลายคนยอมรับ และเชื่อว่าสาวๆ หลายคนคงตกหลุมรักในลุคนี้แน่นอน และไม่น่าเชื่อว่าเขาเป็นนักแสดงชายคนแรกที่ได้เข้าชิงรางวัล BAFTA Award ในการรับบท James Bond เลยทีเดียว จนผู้คนทั่วโลกต่างโหวตให้ว่านี่เป็นภาคต่อที่ดีที่สุดของ Daniel Craig 

สนุกแค่ไหนต้องลองไปรับชมด้วยตัวเอง

โดยรวมแล้วถือว่าเป็น 007 ภาคที่เปิดตัวสายลับคนใหม่ Bond ที่ทำออกมาได้น่าประทับใจมากๆ มีสไตล์ทันสมัยและให้อารมณ์ความเป็นมนุษย์มากขึ้นของบทบาทตัวละครหลักเรื่องนี้ แถมยังมีการเล่นเรื่องที่พลิกตลบไปมา มีฉากแอ็คชั่นที่ระทึกใจ และยังมีเพลงเปิดตัวแปลกใหม่ไม่เหมือนภาคก่อนๆ ด้วย อย่างเพลง You Know My Name จาก Chris Cornell จากที่ปกติจะใช้เพลงแนวดีวาโชว์เสียงพลังนักร้อง