รีวิว The Bricklayer (2023)

รีวิว The Bricklayer (2023)

The Bricklayer ภาพยนตร์แอ็คชั่นสไตล์สายลับที่กำกับโดย เรนนี ฮาร์ลิน นำแสดงโดย คลิฟตัน คอลลินส์ จูเนียร์, นีน่า โดเบรฟ, ราฟาเอล เปเรซ ในเนื้อหาของอดีตสายลับที่ต้องมาทำงานเป็นนักเขียน แต่กลับถูกเรียกตัวมาสืบราชการลับอีกครั้ง เมื่อมีคนร้ายที่สังหารผู้บริสุทธ์ และป้ายความผิดให้กับคนในหน่วยซีไอเอ งานนี้จึงต้องออกโรงมาเพื่อพิสูจน์หาความจริงกันอีกครั้ง

 

ไรอัน บริคเลอร์ (แสดงโดย คลิฟตัน คอลลินส์ จูเนียร์) อดีตสายลับซีไอเอที่ผันตัวมาเป็นนักเขียนนิยายแนวจารกรรม ซึ่งเขาได้ถูกเรียกตัวกลับมาปฏิบัติหน้าที่อีกครั้ง เมื่อมีคนร้ายบุกสังหารนักข่าวชาวรัสเซียในกรุงโรม และกล่าวหาว่าเป็นฝีมือของซีไอเอ ทำให้บริคเลอร์ต้องออกสืบสวนเพื่อหาตัวคนร้ายตัวจริง และปกป้องชื่อเสียงของซีไอเอ

 

สำหรับ The Bricklayer ถือว่าเป็นหนังที่ดำเนินเรื่องอย่างรวดเร็ว กระชับ มีฉากแอ็คชั่นจัดเต็ม ตื่นเต้น เร้าใจ ซึ่งเราจะได้เห็น บริคเลอร์ ที่เป็นตัวละครที่ฉลาดและเก่งกาจด้านการต่อสู้ สามารถเอาตัวรอดจากสถานการณ์คับขันต่างๆ ได้อย่างไม่น่าเชื่อจริงๆ และแม้ อาเลน่า ภรรยาของบริคเลอร์ที่หายตัวไปอย่างลึกลับนั้นก็ยังเป็นตัวละครที่มีความสำคัญต่อเนื้อเรื่องเป็นอย่างมาก เพราะเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสืบสวนของบริคเลอร์ที่บอกใบ้ไม่ได้เลยต้องไปลุ้นติดตามรับชมกัน

 

ส่วนด้านฉากคิวบู๊แอ็คชั่นนั้นถือว่าทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม มาดูกันว่าบริคเลอร์จะใช้ไหวพริบการต่อสู้ได้อย่างไรบ้าง นอกจากนี้สำหรับคอหนังแอ็คชั่นก็ไม่ต้องเบื่อว่าจะได้รับชมคิวบู๊แบบเดิมๆ เพราะจัดเต็มกับฉากไล่ล่าบนหลังคารถไฟในกรุงโรม ฉากต่อสู้บนเรือดำน้ำ และฉากต่อสู้บนเครื่องบิน และอีกเพียบที่บอกเลยว่าจุใจและไม่ค่อยได้เห็นในหลายๆ เรื่องแน่นอน ยอมรับเลยว่าดีไซน์ฉากแอ็คชั่นได้ดีมากทีเดียว

 

แต่อย่างไรก็ตามต้องบอกตามตรงว่าเนื้อเรื่องค่อนข้างง่ายไปหน่อย เล่าแบบเส้นตรงและไม่ได้มีความซับซ้อนเข้มข้นอะไรเลย เน้นการเอาตัวรอดละตามเอาใจช่วยให้ตัวละครหลักพิสูนน์ความจริงกับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้แค่นั้น ไม่ได้มีสตอรี่แบบอื่นให้เนื้อเรื่องน่าสนใจ ส่วนบทของตัวละครรองก็ไม่ค่อยเด่นเท่าไร และเทคนิคพิเศษฉากที่ต้องใช้ซีจีก็ไม่ค่อยเนี๊ยบเท่าที่สังเกตมาได้ แต่รวมๆ ก็อาจจะพอมองข้ามผ่านไปได้บ้าง

 

โดยรวมแล้ว The Bricklayer ถือว่าให้เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์สายลับแอ็คชั่นทางเลือกอีกเรื่องแล้วกัน เรียกว่าสนุกไปกับฉากบู๊ แอ็คชั่นต่างๆ ทำได้ดี แต่เนื้อเรื่องอาจจะไม่ค่อยน่าสนใจเพราะมาในสไตล์เดิมๆ การเล่าเรื่องแบบเดิมจึงอาจจะเหมือนกับเรื่องอื่นๆ ที่หารับชมได้ทั่วไป แต่ถ้าใครที่ชื่นชอบแนวนี้อยู่แล้วก็น่าจะไม่ผิดหวังสักเท่าไร ต้องลองติดตามรับชมกัน